ชนิดของโซล่าเซลล์

แผงโซล่าเซลล์แบ่งออกเป็น 3 ชนิด

1. แผงโซล่าเซลล์ชนิด โพลีคริสตัลไลน์ (Poly Crystalline)

2. แผงโซล่าเซลล์ชนิด โมโนคริสตัลไลน์ (Mono Crystalline) 

3. แผงโซล่าเซลล์ชนิด ฟิล์มบาง (Thin Film) 

แผงโซล่าเซลล์ชนิด โพลีคริสตัลไลน์ (Poly Crystalline)  เป็นแผงโซล่าเซลล์ชนิดแรก ที่ทำมาจากผลึกซิลิคอน บางครั้งเรียกว่า มัลติ-คริสตัลไลน์ (Multi-Crystalline) โดยกระบวนการผลิต จะนำเอาซิลิคอนเหลว มาเทใส่โมลด์ที่เป็นสี่เหลี่ยม ก่อนจะนำมาตัดเป็นแผ่นบางอีกที จึงทำให้แต่ละเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สีของแผงจะออกสีน้ำเงิน

แผงโซล่าเซลล์ชนิด โมโนคริสตัลไลน์ (Mono Crystalline)  เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่ทำมาจาก ผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว (Mono- Silicon) บางครั้งเรียกว่า Single Crystalline  ลักษณะแต่ละเซลล์เป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมทั้งสี่มุม และมีสีเข้ม  ทำมาจากซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์สูง กวนให้ผลึกเกาะกันที่แกนกลาง ทำให้เกิดแท่งทรงกระบอก จากนั้นนำมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมและลบมุมทั้งสี่ออก ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และลดการใช้วัตถุดิบ Mono- Silicon ลง ก่อนที่จะนำมาตัดเป็นแผ่นอีกที

แผงโซล่าเซลล์ชนิด ฟิล์มบาง (Thin Film) เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่ทำมาจาก การนำสารที่แปลงพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้า มาฉาบเป็นชั้นบางๆ ซ้อนกันหลายๆชั้น จึงเรียกโซล่าเซลล์ชนิดนี้ว่า ฟิล์มบาง (thin film) แผงโซล่าเซลล์ ชนิดฟิล์มบาง มีประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ที่ 7-13 % ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่นำมาทำเป็นฟิล์มฉาบ

นอกจากการเลือกประเภทของแผงแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงต่อไปคือโครงสร้างของหลังคา หรือสภาพแวดล้อมรอบพื้นที่การติดตั้งอีกด้วย เพราะแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Monocrystalline, Polycrystalline และThin-film ล้วนมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการติดตั้งในครั้งนั้นอีกที

สำหรับคนที่มีพื้นที่กว้างอยู่แล้ว จะเหมาะสำหรับการติดตั้ง แผงของ Polycrystal ที่มีต้นทุนที่ต่ำ แต่ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะต่ำตามไปด้วย

แต่หากว่าใครมีพื้นที่ ที่จำกัดแต่ยังต้องการประหยัดไฟ ทางเราแนะนำให้ติดเป็นแผง Monocrystal ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่า แถมยังประหยัดพื้นที่ได้อีกด้วย

ส่วนแผงแบบ Thin-film จะเหมาะสำหรับโครงสร้างที่ไม่สามารถรับน้ำหนักเยอะได้ ส่วนใหญ่ แผงประเภท Film จะนิยมใช้สำหรับพื้นที่ ที่จำกัด และมีความบิดโค้ง เช่น บนเรือ หลังคารถ แม้กระทั่งบนปีกเครื่องบิน