“ฝุ่น” ลดประสิทธิภาพแผงโซล่าเซลล์ จริงไหม?
โซล่าเซลล์เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า แผงโซล่าเซลล์ประกอบด้วยเซลล์แสงอาทิตย์จำนวนมาก ซึ่งทำจากวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ เช่น ซิลิคอน เซลล์แสงอาทิตย์จะผลิตไฟฟ้าเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบ พลังงานแสงอาทิตย์จะกระตุ้นอิเล็กตรอนในวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ทำให้เกิดการไหลของกระแสไฟฟ้า
ฝุ่นละอองเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศ ฝุ่นละอองสามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของโซล่าเซลล์ได้ โดยฝุ่นละอองจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคในการรับแสงอาทิตย์ของเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้เซลล์แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง ฝุ่นสามารถเกิดได้ทางธรรมชาติหรือกิจกรรมมนุษย์ก็ได้ เช่น การเผาหรือการปล่อยก๊าซ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากสามารถกระจายไปได้ไกลในอากาศ และมีผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ นอกจากนี้ ฝุ่นยังสามารถเป็นมลพิษทางภูมิได้ เช่น ฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กมากและสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้จนกลายเป็นปัญหาระดับโลก
โดยฝุ่นที่ลอยในอากาศอาจมีผลกระทบต่อโซล่าเซลล์ในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
- ลดประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์ ฝุ่นที่ตกบนพื้นผิวของโซล่าเซลล์อาจทำให้แสงไม่สามารถเข้าถึงพื้นผิวของโซล่าเซลล์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ลดประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า
- ลดการสะสมพลังงาน การสะสมฝุ่นบนพื้นผิวโซล่าเซลล์อาจทำให้เกิดการต้านทานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านได้อย่างปกติ และส่งผลให้กระแสไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลล์ลดลง
- ความร้อน ฝุ่นที่สะสมบนพื้นผิวโซล่าเซลล์สามารถดูดความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ ซึ่งอาจทำให้โซล่าเซลล์ทำงานใต้อุณหภูมิที่สูงขึ้น และจะทำให้ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานลดลง
ในเขตพื้นที่ที่ฝุ่นละอองมีปริมาณมาก เช่น เขตพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมหนัก หรือเขตพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศ จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แผงโซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยถ้าหากปล่อยไว้ จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้นตามมา เพราะฉะนั้นการรักษาความสะอาดของโซล่าเซลล์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากฝุ่น ซึ่งการทำความสะอาดโซล่าเซลล์ในระยะเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้โซล่าเซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในบางที่ การควบคุมฝุ่นในอากาศผ่านนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ก็สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ ซึ่งมีผลทั้งในด้านสุขภาพและการทำงานของโซล่าเซลล์ด้วย
การทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์สามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฉีดน้ำ การใช้แปรงขนอ่อน หรือการใช้อุปกรณ์ดูดฝุ่นขนาดเล็ก การทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์ควรทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้แผงโซล่าเซลล์เสียหาย
วิธีการแก้ไขปัญหา
- การทำความสะอาด เพื่อลดฝุ่นที่สะสม แต่ควรทำในระหว่างเวลาที่โซล่าเซลล์ไม่ได้ทำงานหรือตอนเย็น
- การใช้วัสดุที่ลดการสะสมฝุ่น การใช้วัสดุที่ลดการสะสมฝุ่นบนพื้นผิวของโซล่าเซลล์ เช่น วัสดุที่มีความละเอียดสูงและเลเยอร์การรับรู้แสงที่ช่วยลดการสะสมฝุ่น
- การติดตั้งในที่ที่ไม่มีฝุ่นมาก เลือกติดตั้งโซล่าเซลล์ในที่ที่มีปริมาณฝุ่นน้อย หรือในที่ที่สามารถป้องกันฝุ่นจากการตกบนโซล่าเซลล์ได้บ้าง
- การใช้วัสดุที่ทนทาน การใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและฝุ่นสามารถช่วยลดการสะสมไฟฟ้าได้
การบำรุงรักษาและการดูแลรักษาโซล่าเซลล์ให้มีประสิทธิภาพสูงตลอดเวลาจะช่วยลดผลกระทบจากการสะสมฝุ่นและเพิ่มอายุการใช้งานของระบบ
เช่นเดียวกันกับในขณะนี้ ที่เริ่มกลับมามีฝุ่น PM2.5 อีกครั้ง ซึ่งเป็นฝุ่นที่ประกอบด้วยละอองขนาดเล็กและมีความสามารถที่จะสะสมบนพื้นผิวของโซลาร์เซลล์ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของโซลาร์เซลล์ระหว่างการทำงานได้ตลอดเวลา เช่น การที่ละออง PM2.5 สะสมบนผิวโซลาร์เซลล์อาจทำให้ลดความโปร่งใสของพื้นผิวโซลาร์เซลล์และเพิ่มการดูดซับแสงละอองน้ำฝนหรือควันที่เกาะอยู่ตามนั้น และจะทำให้ประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ลดลงยิ่งกว่าเดิม
การสะสมของฝุ่น PM2.5 บนโซลาร์เซลล์อาจทำให้เกิดการบดบังแสงที่จำเป็นสำหรับกระบวนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบขึ้นอยู่กับปริมาณและลักษณะของฝุ่น PM2.5 ที่สะสมอยู่บนผิวโซลาร์เซลล์
ด้วยเหตุนี้แล้ว การดูแลรักษาและทำความสะอาดโซลาร์เซลล์อย่างสม่ำเสมอ จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อโซลาร์เซลล์ โดยการรักษาความสะอาดนี้สามารถทำได้โดยใช้น้ำหรือการใช้เครื่องล้างแรงดันต่ำที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโซลาร์เซลล์ได้
เพื่อ รับสินเชื่อ คืนทุนไวขึ้น!!
*ระยะเวลาคืนทุนขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน