เปิดโปง! ความจริงของโซล่าเซลล์ที่ผู้ขายอาจไม่อยากบอกคุณ
คุณกำลังสนใจติดตั้งโซล่าเซลล์ แต่ก็ยังมีความกังวลใจอยู่ใช่ไหม? กลัวว่าจะไม่คุ้มค่า? กลัวว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง? ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! เราจะมาเปิดโปงความจริงเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ที่ผู้ขายอาจไม่อยากบอกคุณ และแนะนำโซลูชันจาก Huawei FusionSolar ที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลและมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น
โซล่าเซลล์
โซล่าเซลล์ หรือ เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยปรากฏการณ์โฟโตโวลตาอิก (Photovoltaic effect) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสารกึ่งตัวนำบางชนิดที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง หลักการทำงานง่ายๆ ของโซล่าเซลล์คือ เมื่อแสงแดดตกกระทบลงบนแผงโซล่าเซลล์ โฟตอน (อนุภาคของแสง) จะทำให้อิเล็กตรอนในสารกึ่งตัวนำเกิดการเคลื่อนที่ สร้างกระแสไฟฟ้าขึ้น
โซล่าเซลล์มีประโยชน์มากมาย เช่น
- ลดค่าไฟฟ้า : ช่วยลดค่าไฟฟ้าในบ้านเรือนและอาคารต่างๆ
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : เป็นพลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
- ใช้ได้ในพื้นที่ห่างไกล : สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง
โซล่าเซลล์มีกี่ระบบ
ระบบโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 3 ระบบหลัก คือ
- ระบบออนกริด (On-Grid System) เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า ทำให้สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้คืนให้กับการไฟฟ้าได้ แต่ระบบนี้จะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เมื่อไฟฟ้าดับ
- ระบบออฟกริด (Off-Grid System) เป็นระบบที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้แม้ไฟฟ้าดับ แต่ระบบนี้จะต้องมีแบตเตอรี่สำหรับเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด
- ระบบไฮบริด (Hybrid System) เป็นระบบที่รวมข้อดีของระบบออนกริดและออฟกริดเข้าด้วยกัน โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าได้ และมีแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บไฟฟ้า
ปัจจุบัน โซล่าเซลล์มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในภาคครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีโซล่าเซลล์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ทำให้โซล่าเซลล์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานสะอาดและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
รวมความจริงของโซล่าเซลล์ที่ผู้ขายอาจไม่อยากบอกคุณ
ความจริงที่ 1 : โซล่าเซลล์ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
โซล่าเซลล์ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการทำงานของมัน ได้แก่
- ความเข้มของแสงอาทิตย์
- มุมตกกระทบของแสงอาทิตย์
- อุณหภูมิ
- ฝุ่นและสิ่งสกปรก
โซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ยิ่งแดดแรงยิ่งผลิตไฟได้เยอะ แต่ถ้าหากเจอเมฆบัง แดดร่ม หรือฝนตก ก็ผลิตไฟได้น้อยลง นอกจากนี้ ความร้อนก็ทำให้โซล่าเซลล์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ฝุ่นเกาะก็บังแสงแดดได้ แม้แต่เงาเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้เยอะเลย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ โซล่าเซลล์จึงไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
ความจริงที่ 2 : โซล่าเซลล์มีอายุการใช้งานและเสื่อมสภาพ
แม้ว่าโซล่าเซลล์จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็มีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า โดยทั่วไป โซล่าเซลล์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 25-30 ปี แต่ประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี โดยเฉลี่ยแล้ว โซล่าเซลล์จะมีอัตราการเสื่อมสภาพประมาณ 0.5-1% ต่อปี ซึ่งหมายความว่าหลังจากใช้งานไป 25 ปี โซล่าเซลล์อาจผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงประมาณ 12.5-25%
ปัจจัยที่มีผลต่อการเสื่อมสภาพของโซล่าเซลล์ ได้แก่
- คุณภาพของวัสดุ : โซล่าเซลล์ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงจะมีอัตราการเสื่อมสภาพที่ช้ากว่า
- สภาพแวดล้อม : สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ความร้อนสูง, ความชื้นสูง, หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่รวดเร็ว อาจเร่งการเสื่อมสภาพของโซล่าเซลล์
- การบำรุงรักษา : การทำความสะอาดและบำรุงรักษาโซล่าเซลล์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพและยืดอายุการใช้งาน
แม้ว่าโซล่าเซลล์จะมีการเสื่อมสภาพ แต่ก็ยังคงเป็นแหล่งพลังงานที่คุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว เนื่องจากสามารถผลิตไฟฟ้าได้ฟรีจากแสงอาทิตย์ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดอัตราการเสื่อมสภาพของโซล่าเซลล์อย่างต่อเนื่อง
ความจริงที่ 3 : การติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ
การติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความรู้ทางเทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อให้ระบบโซล่าเซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย หากติดตั้งไม่ถูกต้อง อาจส่งผลเสียต่อระบบ และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
เหตุผลที่การติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ
- การออกแบบระบบ : การออกแบบระบบโซล่าเซลล์ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดของพื้นที่ติดตั้ง ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ทิศทางและมุมของหลังคา และสภาพอากาศ เพื่อให้ระบบสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ
- การเลือกอุปกรณ์ : การเลือกแผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องพิจารณาถึงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ เพื่อให้ระบบทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
- การติดตั้ง : การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องทำอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์และอันตรายจากไฟฟ้า
- การเชื่อมต่อระบบไฟฟ้า : การเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์กับระบบไฟฟ้าภายในบ้านต้องทำอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ
- การขออนุญาต : การติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ซึ่งต้องมีการเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด
ความจริงที่ 4 : ปัญหาทางเทคนิคของโซล่าเซลล์
นอกจากปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศแล้ว โซล่าเซลล์ยังมีปัญหาทางเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้ขายอาจไม่ได้แจ้งให้คุณทราบทั้งหมด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ มาดูกันว่าปัญหาเหล่านั้นคืออะไร
- Hotspot : จุดร้อนที่เกิดขึ้นบนแผงโซล่าเซลล์เมื่อเซลล์บางส่วนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจทำให้แผงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การติดตั้ง Optimizer สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
- PID (Potential Induced Degradation) : ปรากฏการณ์ที่ทำให้ประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์ลดลงเมื่อใช้งานไปนานๆ เกิดจากความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างเซลล์กับโครงสร้างของแผง การเลือกแผงที่มีคุณภาพและติดตั้งอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด PID
- Microcrack : รอยร้าวขนาดเล็กที่เกิดขึ้นบนเซลล์แสงอาทิตย์ อาจเกิดจากการขนส่ง การติดตั้ง หรือความเครียดจากความร้อน รอยร้าวเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของแผง ควรตรวจสอบแผงอย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนแผงที่เสียหาย
- การเสื่อมสภาพของอินเวอร์เตอร์ : อินเวอร์เตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานได้ในบ้าน อินเวอร์เตอร์มีอายุการใช้งานจำกัด และหากเสื่อมสภาพ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบโซล่าเซลล์ทั้งหมด
- ปัญหาการเชื่อมต่อ : การเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์กับระบบไฟฟ้าในบ้านต้องทำอย่างถูกต้อง หากการเชื่อมต่อไม่ดี อาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่ว, ไฟฟ้าดับ, หรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้าน
ความจริงที่ 5 : การใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ
การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของระบบ และมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของระบบโซล่าเซลล์ทั้งหมด
เหตุผลที่ควรเลือกใช้อุปกรณ์โซล่าเซลล์คุณภาพสูง
- ประสิทธิภาพที่สูงกว่า
- ความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
- ความปลอดภัยที่สูงกว่า
- การรับประกันที่ครอบคลุมกว่า
- คุ้มค่าในระยะยาว
เราขอแวะขายของหน่อยนะคะ
Huawei FusionSolar
นำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรที่ประกอบด้วยอุปกรณ์หลากหลายประเภท
ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของระบบพลังงานแสงอาทิตย์
Huawei FusionSolar
Huawei FusionSolar คือ โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะแบบครบวงจรที่พัฒนาโดย Huawei บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก โซลูชันนี้ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ การจัดเก็บพลังงาน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น AI Boost, ระบบทำความสะอาดอัจฉริยะ และระบบตรวจสอบอัจฉริยะ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าระบบโซล่าเซลล์ของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย Huawei FusionSolar ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ากับโซลูชันที่ครบวงจร ทำให้ Huawei FusionSolar สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม
ปัจจัยที่ส่งเสริมความสำเร็จ
- เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย : Huawei FusionSolar นำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น AI Boost, ระบบทำความสะอาดอัจฉริยะ,และระบบตรวจสอบอัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของระบบโซล่าเซลล์
- โซลูชันที่ครบวงจร : Huawei FusionSolar ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า การจัดเก็บพลังงาน ไปจนถึงการบริหารจัดการพลังงาน ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่าย
- ความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนา : Huawei ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง
- เครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง : Huawei ร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลก เพื่อขยายตลาดและให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อย่างครอบคลุม
Huawei FusionSolar ประกอบด้วย
อินเวอร์เตอร์ (Huawei Inverter) ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าตรง (DC) ที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์ เป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) ที่สามารถใช้งานได้ในฟาร์ม อินเวอร์เตอร์ของ Huawei FusionSolar มีความชาญฉลาด สามารถปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า
ระบบจัดเก็บพลังงาน (Huawei LUNA 2000 S1) แบตเตอรี่ของ Huawei FusionSolar ช่วยกักเก็บพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ในช่วงกลางวัน เพื่อนำมาใช้ในช่วงกลางคืนหรือเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างต่อเนื่องและลดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ออปติไมเซอร์ (Huawei Smart PV Optimizer) ออปติไมเซอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผง โดยเฉพาะในสภาวะที่แผงโซล่าเซลล์บางส่วนถูกบังด้วยเงา ออปติไมเซอร์จะช่วยให้แผงที่เหลือยังคงผลิตไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ ทำให้ระบบโดยรวมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ระบบจัดการพลังงาน (App Huawei FusionSolar) ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะของ FusionSolar ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและควบคุมการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลการผลิตไฟฟ้า การใช้พลังงาน และสถานะของระบบได้แบบเรียลไทม์
นอกจากอุปกรณ์หลักที่กล่าวมาข้างต้น Huawei FusionSolar ยังมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น
- ตู้รวมไฟ (Combiner Box)
- อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (Surge Protection Device)
- อุปกรณ์ตรวจวัด (Monitoring Device)
อย่าปล่อยให้ความไม่แน่นอนมาเป็นอุปสรรคต่อการใช้พลังงานสะอาด ติดต่อ EV Power Energy วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นเจ้าของพลังงานแสงอาทิตย์อย่างมั่นใจและปลอดภัย
พิเศษสุดๆ ! หากสนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์กับเราสามารถติดต่อมาได้เลยที่ EV Power Energy บริการจัดจำหน่ายและติดตั้งโซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ Inverter อุปกรณ์การติดตั้ง จุดชาร์จ EV สารเคลือบแผง Nano Coating อุปกรณ์ต่างๆ Huawei และการออกแบบกรอบอาคารประหยัดพลังงาน ประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมบริการทั่วประเทศ!!! หรือติดต่อได้ที่
โทรศัพท์ 050 000 864 , 090 456 6646
Facebook : EV Power Energy
Instagram : evpowerenergy
Line : @evpowerenergy
เพื่อ รับสินเชื่อ คืนทุนไวขึ้น!!
*ระยะเวลาคืนทุนขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน