1. สภาพอากาศและแสงแดด : แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด หากมีเมฆมาก ฝนตก หรือในช่วงฤดูหนาวที่มีแสงแดดน้อย ระบบจะผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง นอกจากนี้ มุมตกกระทบของแสงแดดก็มีผลเช่นกัน หากแผงโซล่าเซลล์ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง ประสิทธิภาพก็จะลดลง
2. อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่สูงเกินไปสามารถลดประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์ได้ ดังนั้นการระบายความร้อนที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ
3. เงา : เงาจากต้นไม้ อาคาร หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่บดบังแผงโซล่าเซลล์ แม้เพียงบางส่วน ก็สามารถลดประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของทั้งระบบได้อย่างมาก
4. ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก : ฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือคราบต่างๆ ที่เกาะบนแผงโซล่าเซลล์ จะลดปริมาณแสงแดดที่ส่องถึงเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง การทำความสะอาดแผงเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น
5. ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ : อุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ เช่น อินเวอร์เตอร์ สายไฟ และตัวเชื่อมต่อต่างๆ ก็มีผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับระบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ
6. การเสื่อมสภาพของแผงโซล่าเซลล์ : แผงโซล่าเซลล์มีอายุการใช้งาน และประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลงตามอายุการใช้งาน
7. การออกแบบและติดตั้งระบบ : การออกแบบและติดตั้งระบบที่ไม่ถูกต้อง เช่น การวางแผงในทิศทางที่ไม่เหมาะสม หรือการเดินสายไฟที่ไม่ดี ก็สามารถลดประสิทธิภาพของระบบได้

     ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น Huawei Smart PV Optimizer และการบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบโซล่าเซลล์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน